User-agent: * เครื่องดื่มผงต้นข้าวสาลีอ่อน Girme: 2010

Monday, July 12, 2010

ประโยชน์ของสารสกัดใบหม่อน (Mulberry Extract)

หม่อน มีชื่อวิทยาศาสตร์ Morus alba L. และมีชื่อเรียกสามัญมากมาย เช่น Mulberry, White Mulberry หรือ Mulberry Tree

ใบหม่อน (Mulberry Extract) ใช้เป็นอาหารของหนอนไหม พบปลูกกันอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศไทย จีน ญี่ปุ่น กัมพูชา สเปน เปรู หลายประเทศใช้ ใบหม่อน สำหรับรักษา โรคเบาหวาน ในทางการแพทย์แผนไทย ใช้ ใบหม่อน (Mulberry Extract)  แก้ตาแดง ตาแฉะ ระบังประสาท แก้ไอ แก้เจ็บคอ

ส่วนนักวิทยาศาสตร์ ได้ทำการวิจัยค้นหาสารสำคัญใน ใบหม่อน (Mulberry Extract) ว่ามีสรรพคุณอะไร ก็พบว่า ใบหม่อน (Mulberry Extract) สามารถนำมาต้มน้ำดื่มช่วยบำรุงสายตา อีกทั้งพบว่า ใบหม่อนแห้ง 100 กรัม มีแคลเซียมสูงถึง 2,699 มิลลิกรัม วิตามินเอ 4,230 หน่วยสากล ไนอาซิน 4 มิลลิกรัม อีกทั้งกรดอะมิโนสูงถึง 18 ชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย

สารสำคัญใน ใบหม่อน (Mulberry Extract) ได้แก่ สารประเภท phytosterol , amino acid,
Flavonoids, organic acid เป็นต้น


ประโยชน์ของ สารสกัดใบหม่อน (Mulberry Extract)

  1. ใบหม่อน (Mulberry Extract) มีสารพวกเควอซิติน (Quercetin) และเคมเฟอรอล (Kaempferol) ซึ่งอยู่ในกลุ่มของ Flavoniods ที่มีคุณสมบัติป้องกันการดูดซึมของน้ำตาลในลำไส้ ทำให้เลือดหมุนเวียนดี และหลอดเลือดแข็งแรง รวมถึงลดอาการแพ้ต่าง ๆ อีกด้วย
  2. ใบหม่อน(Mulberry Extract) มีสารดีอ๊อกซิโนจิริมายซิน หรือ DNJ-deoxynojirimycin ซึ่งมีคุณสมบัติลดระดับน้ำตาลในเลือด และเสริมฤทธิ์การหลั่งอินซูลิน
  3. ใบหม่อน (Mulberry Extract) มีสารกาบา (GABA-gamma amino butyric acid) มีคุณสมบัติช่วยลดระดับไขมันในเลือด ลดการเกิดลิ่มเลือด และป้องกันการเกิดไขมันเกาะหลอดเลือด
  4. ใบหม่อน (Mulberry Extract) ได้ผ่านการทดสอบของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้วแว่า สามารถลดไขมันในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ทั้ง cholesterol และ triglyceride ในผู้ป่วยเบาหวาน
  5. ใบหม่อน (Mulberry Extract) มีแคลเซียมสูง ช่วยป้องกันกระดูกพรุน และลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
  6. ใบหม่อน (Mulberry Extract) มีสารโพลีฟีนอล ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการทำให้ผิวขาว เนื่องจากช่วยยับยั้งการสร้างเมลานิน ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย  และรา เป็นต้น
 อาหารเสริมสูตรบำรุงผิว จากต้นข้าวสาลีอ่อน ผสมรากเบอร์ดอก และใบอ่อนของต้นหม่อน ในชื่อของผลิตภัณฑ์  วีโกเบอรี่ (Whe Globerry) 
สนใจติดต่อ คุณตู๋ 085-7100612 หรืออีเมล์ tusora@gmail.com



Friday, June 11, 2010

ความสำคัญของกรดอะมิโนต่อร่างกาย

กรดอะมิโน คือ หน่วยเล็ก ๆ ของโปรตีน เมื่อ กรดอะมิโน หลาย ๆ ตัว รวมกันเป็นโครงสร้างจะเกิดเป็นสารโปรตีนขึ้นมา และเมื่อเรารับประทานอาหารเข้าไป ร่างกายจะย่อยสารโปรตีนจนได้ กรดอะมิโน นั้นเอง

ซึ่งนอกเหนือจากน้ำ แร่ธาตุ และวิตามิน แล้ว กรดอะมิโน เป็นส่วนประกอบหนึ่งที่ร่างกายต้องการในการนำไปใช้ในการสร้าง และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ หรือใช้ในการเจริญเติบโต อีกทั้ง กรดอะมิโน หรือโปรตีนยังเป็นส่วนสำคัญในการสร้าง ฮอร์โมน และ เอนไซม์ ที่จำเป็นในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกด้วย เพราะ กรดอะมิโน หรือโปรตีน เหล่านั้น จะถูกนำไปสร้างเป็นแอนติบอดี้ และเม็ดเลือดขาว

กรดอะมิโน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ เรียกว่า กรดอะมิโนชนิดจำเป็น มี 8 ชนิด และกลุ่มที่ร่างกายสามารถสร้างเองได้ เรียกว่า กรดอะมิโนชนิดไม่จำเป็น มี 22 ชนิด กรดอะมิโน จำเป็น ร่างกายเราสามารถย่อยสลายหรือรับเข้ามาจากการรับประทานหรือการกินอาหารนั่นเอง

กรดอะมิโน ชนิดจำเป็น ได้แก่ lysine, methionine, leucine, threonine, valine, trytophan, isoleucine และ phenylalanine แต่สำหรับในเด็กเล็ก ๆ จะมีเพิ่มอีก 2 ตัวคือ histidine และ arginine ซึ่งจะช่วยในการเจริญเติบโต

อาหารที่เป็นแหล่ง กรดอะมิโน 
  • Arginine ได้จาก แครอท หัวบีท แตงกวา เซเลอรี มันฝรั่ง
  • Histidine ได้จาก แอปเปิล สับปะรด ทับทิม มะละกอ แครอท เซเลอรี
  • Leucine & Isoleucine ได้จาก มะละกอ มะกอก
  • Lysine ได้จาก มะละกอ แอปเปิล แพร่ องุ่น แครอท แตงกวา
  • Methionine ได้จาก สับปะรด แอปเปิล แตงโม ดอกกะหล่ำ กระเทียม
  • Phenylalanine ได้จาก สับปะรด แอปเปิล แครอท หัวบีท ผักขม มะเขือเทศ
  • Threonine ได้จาก มะละกอ แครอท ผักใบเขียว
  • Tryptophan ได้จาก แครอท เซเลอรี ผักขม กะหล่ำปลี
  • Valine ได้จาก แอปเปิล แครอท หัวผักกาด เซเลอรี ผักชีฝรั่ง มะเขือเทศ
กรดอะมิโน นอกจากจะสร้างฮอร์โมน และแอนติบอดี้แล้ว กรดอะมิโนยังมีบทบาทในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อ เอ็น อวัยวะ เล็บ ผม และช่วยในการนำสื่อประสาทในสมอง อีกทั้งยังทำงานร่วมกับเกลือแร่ และวิตามิน ทำให้เกิดปฏิกิริยาอย่างสมบูรณ์อีกด้วย

ดังนั้น การที่คุณจะได้รับ กรดอะมิโน ชนิดจำเป็นอย่างครบถ้วน คุณควรจะหมุนเวียนทานผัก ผลไม้แต่ละชนิดให้ได้หลากหลายชนิด เพื่อให้ได้รับ กรดอะมิโน ชนิดจำเป็น ครบถ้วนอย่างแท้จริง

เคล็ดลับในการเลือกเสริม กรดอะมิโน
  1. เลือกผลิตภัณฑ์ที่มี กรดอะมิโน ในรูป L-form ซึ่งเป็นรูปแบบที่เหมือนในเซลล์ ร่างกายจึงนำไปใช้ได้ทันที (พบในผลิตภัณฑ์ที่นำกรดอะมิโนมาจาก การผลิตโดยจุลินทรีย์ และการสกัดจาก ผัก และผลไม้บางชนิด)
  2. เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ ได้รับมาตรฐาน GMP ซึ่งทำให้แน่ใจได้ว่ามีความปลอดภัยสูง (ผลิตภัณฑ์ ผงต้นข้าวสาลีอ่อนผสมกรดอะมิโน ชนิด วีไมโคร (Whe Micro) มี อ.ย.)

Sunday, May 23, 2010

คลอโรฟิลล์ในต้นข้าวสาลีอ่อน (Chlorophyll in Wheat grass)

ต้น ข้าวสาลีอ่อน เป็นธัญพืชที่ธรรมชาติสร้างสรรค์มาให้กับมนุษย์ ต้น ข้าวสาลี มีสีเขียว ที่เรียกว่า คลอโรฟิลล์ บรรจุไว้ถึง 70% ของน้ำหนัก หรือบางคนเรียก คลอโรฟิลล์ ว่า "เลือดของพืช" ซึ่งพบว่า คลอโรฟิลล์ หรือ เลือดพืชนี้ มีโครงสร้าง คล้ายกับ เม็ดเลือดแดง ของมนุษย์ อีกทั้งยังบรรจุแร่ธาตุที่ดูดซับจากพื้นดินไว้สูงถึง 98 ชนิด มากกว่าพืชหรือธัญพืชชนิดอื่น ซึ่งล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของเรา
คลอโรฟิลล์ ในต้น ข้าวสาลีอ่อน (Chlorophyll in Wheat grass) เป็นเลือดของพืช ที่มีคุณสมบัติเหมือนแม่เหล็กในการดูดซับของเสียออกจากเลือด กระตุ้นการสร้าง เม็ดเลือดแดง เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ช่วยให้เซลล์ได้รับออกซิเจนมากขึ้น จึงช่วยซ่อมแซมเซลล์เนื้อเยื่อ บรรเทาอาการอักเสบภายในหลอดเลือด และเนื้อเยื่อภายใน 

นอกจากนี้ คลอโรฟิลล์ ในต้น ข้าวสาลีอ่อน ยังมีฤทธิ์ในการยับยั้งหรือทำลาย แบคทีเรีย ทำให้บาดแผลหายเร็วขึ้น ลดการติดเชื้อ และดับกลิ่น 

ต้น ข้าวสาลีอ่อน เมื่อนำมาคั้นน้ำ นอกจากจะได้ คลอโรฟิลล์ แล้ว ยังอุดมไปด้วย เอนไซม์ ที่ช่วยในการล้างสารพิษออกจากร่างกาย กระตุ้นความยากอาหาร กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน อีกทั้งแร่ธาตุใน ข้าวสาลีอ่อน มีมากถึง 98 ชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินอี ซึ่งพบว่ามีปริมาณสูงกว่า แครอท หรือส้ม และกรดอะมิโน 17 ชนิด ที่มีอยู่ในต้น ข้าวสาลีอ่อน จึงช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และเพิ่มกำลัง ทำให้สดชื่นได้อย่างรวดเร็ว

สรุป คลอโรฟิลล์ จากต้น ข้าวสาลีอ่อน มีคุณค่าต่อร่างกาย ดังนี้
  • มีวิตามิน เกลือแร่ และกรดอะมิโนกว่า 103 ชนิด
  • มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าผักสดในปริมาณน้ำหนักเท่ากัน
  • มีปริมาณ คลอโรฟิลล์ สูงกว่าพืชชนิดอื่น
  • มีวิตามิน เอ บี ซี อี และเค สูงกว่าส้ม หรือ แครอท
  • มีเบต้าแคโรทีน ซึ่งทำหน้าที่ในการต้านอนุูมูลอิสระได้ อีกทั้งช่วยจับสารพิษในเลือดได้ดี
  • ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน เพิ่มเม็ดเลือดแดง และเม็ดเลือดขาว
  • ช่วยในการขจัดไขมันในเลือด จึงปรับสมดุลหรือลดน้ำหนักได้ดี 
ดังนั้น การดื่มน้ำ คลอโรฟิลล์ จากต้น ข้าวสาลีอ่อน เป็นประจำ จะช่วยขจัดของเสียในร่างกาย หรือทำความสะอาดเลือด เพิ่มปริมาณเลือด กระตุ้นระบบการไหลเวียน และภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ จึงทำให้ร่างกายสะอาดและแข็งแรง

Saturday, May 22, 2010

ข้าวสาลีอ่อน (Wheat grass) หรือ วีตกราส แหล่ง คลอโรฟิลล์ จากธรรมชาติ

ประวัติความเป็นมาของ ข้าวสาลีอ่อน วีตกราส (Wheat grass)

ข้าวสาลีอ่อน หรือ วีตกราส (Wheat Grass) เป็นธัญพืชที่ถูกค้นพบมา นานกว่า 3,000 ปีมาแล้ว จึงได้นำ ข้าวสาลี มาใช้ในการบริโภค โดยการดัดแปลงเป็น ขนมปัง ข้าวสาลี และได้รับความนิยมในการบริโภคกันอย่างมาก เพราะพบว่า ข้าวสาลี ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง จากการค้นคว้า พบว่า ต้นข้าวสาลี มีรากที่สามารถดูดซับเอาแร่ธาตุจากดินได้ในปริมาณสูง โดยราก ต้นข้าวสาลี จะดูดซับแร่ธาตุจากดินสูงถึง 92 ชนิด จากแร่ธาตุในดิน 102 ชนิด มีทั้งแคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม โซเดียม และโปแตสเซียมนอกจากนั้นในต้น ข้าวสาลี ยังมีโปรตีนอยู่ในปริมาณสูงเพื่อตับอ่อนจะได้นำไปใช้ในการเปลี่ยนแป้งและน้ำตาลให้กลายเป็นพลังงาน มีคลอโรฟิลอยู่สูงถึง 70% รวมทั้งอุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และกรดอะมิโน ซึ่งให้คุณค่าทางโภชนาการต่อร่างกายสูงมาก

ข้าวสาลีอ่อน หรือ วีตกราส แหล่งคลอโรฟิลล์จากธรรมาติ

ข้าวสาลีอ่อน (Wheat grass) หรือ วีตกราส พบว่าเป็นแหล่ง คลอโรฟิลล์ จากธรรมชาติ ซึ่งให้ คลอโรฟิลล์ สูงถึง 70% ของน้ำหนัก ดังนั้น จึงมีการใช้ ข้าวสาลีอ่อน (Wheat grass) หรือ วีตกราส เป็นแหล่ง คลอโรฟิลล์ เพื่อฟื้นฟูสุขภาพของมนุษย์ จึงได้รับความสนใจอย่างมากทั้งในนักวิทยาศาสตร์ นักโภชนาการ และแพทย์ทางเลือก

ในปี ค.ศ. 1911 นับวิทยาศาสตร์พบว่า คลอโรฟิลล์ มีสูตรโครงสร้างทางเคมีคล้ายคลึงกับโครงสร้างของ ฮีโมโกลบิน ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของ เม็ดเลือดแดง สิ่งที่แตกต่างกัน เพียงอย่างเดียวก็คืออะตอมของธาตุที่ประกอบเป็นสารฮีโมโกลบิน นั้นคือ ธาตุเหล็ก ส่วนใน คลอโรฟิลล์ นั้นเป็น ธาตุแมกนีเซียม เมื่อมีการทดลองกับสัตว์ทดลอง ให้รับประทาน คลอโรฟิลล์ จากต้น ข้าวสาลีอ่อน พบว่าปริมาณ เม็ดเลือดแดง เพิ่มขึ้น จีงได้ให้ความสนใจในการขยายผลการวิจัยอย่างต่อเนื่อง

จนสรุปได้ว่า คลอโรฟิลล์ จากต้น ข้าวสาลีอ่อน หรือ วีตกราส ช่วยในการสร้าง เม็ดเลือดแดง และจากการศึกษาทดลองในสัตว์ทดลองหลายชนิด ได้พบว่า คลอโรฟิลล์ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ ต่อ ร่างกายมนุษย์ทั้งสิ้น เมื่อรับประทาน คลอโรฟิลล์ เข้าไปเพียง 4-5 วันติดต่อกัน ปริมาณ เม็ดเลือดแดง ที่สูญเสียไปจะกลับคืนสู่ระดับปกติ หรือ แม้แต่ในสัตว์ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีอาการของโลหิตจาง หรือมีปริมาณ เม็ดเลือดแดง ต่ำกว่าปกติ

ยังมีการรายงานผลการทดลองอีกหลายงานวิจัย ชี้ให้เห็นว่าเมื่อร่างกายได้รับสาร คลอโรฟิลล์ เข้าไป การทำงานของเซลล์เนื้อเยื่อ และการฟื้นคืนสภาพของเซลล์ จะเป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ แผลหายเร็วขึ้น

คลอโรฟิลล์ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของน้ำคั้น หรือผง ต้นข้าวสาลีอ่อน หรือ ผง คลอโรฟิลล์ จะมีสรรพคุณอย่างน่าทึ่งในการใช้รักษาแผลติดเชื้อเรื้อรังหรือแผลพุพอง โดยจะออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโต และการแพร่ขยายของเชื้อแบคทีเรียทันที

คลอโรฟิลล์ จากต้น ข้าวสาลีอ่อน หรือ วีตกราส พบว่า..... 

  • คลอโรฟิลล์ มีฤทธิ์ในการต้านและทำลายเชื้อแบคทีเรีย
  • คลอโรฟิลล์ สามารถถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้ทันที เนื่องจากมีความเป็นประจุ จึงสามารถผ่านเข้ากระแสเลือดได้อย่างรวดเร็ว
  • คลอโรฟิลล์ ช่วยในการกระตุ้นการผลิตเม็ดเลือดแดง
  • คลอโรฟิลล์ รักษาอาการป่วยเรื้อรังต่างๆ อย่างได้ผล
  • คลอโรฟิลล์ ฟื้นฟูเซลล์เนื้อเยื่อ และรักษาอาการอักเสบ อย่างได้ผล
  • คลอโรฟิลล์ ช่วยในการฟอกเลือด ล้างของเสียในเลือด อย่างรวดเร็ว
  • คลอโรฟิลล์ ช่วยฟอกไขมันในตับ ลดการทำงานของตับ
  • คลอโรฟิลล์ ช่วยรักษาแผลให้หายเร็วขึ้น
  • คลอโรฟิลล์ ช่วยต้านเซลล์มะเร็ง 
  • คลอโรฟิลล์ ช่วยลดการทำงานของเซลล์ ลดการใช้พลังงานของร่างกาย ทำให้ร่างกายได้ฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว

ควรรับประทาน ผงต้นข้าวสาลีอ่อนเดลี่กรีน (Wheat grass) หรือ วีตกราส มากน้อยเพียงใด ในแต่ละวันควรรับประทาน วันละ 4 - 8 กรัม โดยเริ่มต้นที่ 4 กรัม ผสมกับน้ำ 1 แก้ว โดยพยายามอมไว้ในปากเพื่อให้ วีตกราส หรือ น้ำข้าวสาลีอ่อน หรือ น้ำคลอโรฟิลล์ ได้คลุกกับน้ำลายให้ทั่วก่อนจะกลืนน้ำลงไป หลังจากนั้นค่อยเพิ่มปริมาณขึ้นเริ่อย ๆ จนครบ 8 กรัมต่อวัน

การรับประทาน ผงต้นข้าวสาลีอ่อน หรือ วีตกราส นั้น จะไปชำระล้างสารพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย แรกๆ อาจรู้สึกคลื่นไส้บ้าง ทั้งนี้เพราะสาร คลอโรฟิลล์ จะไปทำปฏิกิริยากับสารพิษ และเมือกต่างๆ ในกระเพาะ โดยเมื่อมีอาการคลื่นไส้ ให้จิบน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวตามหลังจากดื่มน้ำ ผงต้นข้าวสาลีอ่อน แล้ว จะช่วยลดอาการคลื่นไส้ได้

การสั่งซื้อ
1. สั่งซื้อโดยตรงกับคุณวิ ที่เบอร์ 080-2416226
(ช่วงเวลาการติดต่อ 8.00 - 19.00 น.)
2. สั่งซื้อผ่านอีเมล์ ถึงคุณตู๋ที่ wi2010ka@gmail.com

3. ส่งชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และรายการสินค้า มาที่ Line id: madamwi

การสั่งซื้อ ต้องแจ้งรายละเอียดลูกค้า ดังนี้

  • ชื่อ นามสกุล
  • ทีอยู่สำหรับจัดส่งของ
  • เบอร์โทรติดต่อกลับ
  • อีเมล์หรือไลน์สำหรับแจ้งกลับ
  • รายการสินค้า และจำนวน
เมื่อทำการสั่งซื้อ ทางร้านค้าจะทำการแจ้งยอดค่าสินค้าและบริการผ่าน Email หรือไลน์ กรุณารอ Email หรือไลน์ ตอบรับจากทางร้านค้าก่อนดำเนินการโอน

Monday, May 17, 2010

สารสกัดจากใบหม่อน (Mulberry Extract)

Mulberries Extract หรือ สารสกัดจากใบหม่อน ซึ่งในทางแพทย์แผนจีน ได้บรรจุใบหม่อนไว้ในตำรับสมุนไพรจีน สำหรับช่วยแก้ปัญหาเรื่อง น้ำตาลในเลือดสูง ในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 คือ ตับอ่อน ไม่สามารถผลิต เอนไซม์อินซูลิน ได้ หรือผลิตได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถนำ น้ำตาลในเลือดมาใช้ได้ เมื่อตรวจเลือดจึงพบว่ามี ระดับน้ำตาลในเลือดสูง

นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นได้สกัดสารจาก ใบหม่อนขาว Morus alba มาใช้ในการวิจัย พบว่า สารสกัดใบหม่อน Mulberry Extract มีประสิทธิภาพในการลดการเกาะของคราบไขมันในหลอดเลือด และยับยั้งกระบวนการเกิดไขมัน LDL (ซึ่งเป็นไลโปโปรตีน ที่ต่อปัญหาให้แก่ร่างกาย) และยังพบว่า สารต้านอนุูมูลอิสระของ สารสกัดใบหม่อน (Mulberry Extract) มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการก่อมะเร็ง ได้อีกด้วย

การยอมรับในทางการแพทย์ ทั้งแพทย์แผนจีน แพทย์แผนตะวันตก และแพทย์แผนตะวันออก ต่างก็ยอมรับว่า สารสกัดจากใบหม่อนนี้ มีผลในการควบคุม ระดับน้ำตาลในเลือด ของผู้ป่วย โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้จริง และสารต้นอนุูมูลอิสระที่มีในปริมาณสูงใน สารสกัดจากใบหม่อน ยังผลช่วยบรรเทาอาการข้างเคียงต่าง ๆ ของผู้ป่วย โรคเบาหวาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย เช่น ลดการอักเสบ ลดการเกิดแผลเรื้อรัง ลดการสะสมของไขมันในกระแสเลือด ลดการแตกของเม็ดเลือดแดง เป็นต้น

แต่ในปัจจุบันได้มีการนำ สารสกัดใบหม่อน มาใช้ใน อาหารเสริมเพื่อสุขภาพผิว โดยพบว่า สารสกัดจากใบหม่อน อุดมไปด้วย วิตามินซี และ วิตามินอี ที่ช่วยในการปรับสมานผิวพรรณ และช่วกปรับสภาพผิวให้เนียน ขาว ใส ขึ้น อย่างเป็นธรรมชาติ

ซึ่งนักวิจัยได้ตรวจพบว่า วิตามินต่าง ๆ ใน สารสกัดใบหม่อน มีคุณสมบัติเป็น Anti oxidant ช่วยในกระบวนการชะลอการเกิดเม็ดสีผิว และช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากการทำลายของอนุมูลอิสระ

สำหรับอาหารเสริมเพื่อบำรุงผิว หรือ เครื่องดื่มผงต้นข้าวสาลีอ่อนผสมรากเบอร์ดอก และสารสกัดจากใบอ่อนของหม่อน ในสูตร วีโกเบอร์รี่ (Whe Globerry)

วีโกเบอร์รี่ (Whe Globerry) เป็นสูตร อาหารเสริมสำหรับบำรุงผิว ประกอบด้วย ต้นข้าวสาลีอ่อน รากเบอร์ดอก และสารสกัดจากใบอ่อนต้นหม่อน ซึ่งมีทั้ง คลอโรฟิลล์ เอนไซม์ ใยอาหาร วิตามิน และ สารต้านอนุมูลอิสระ หรือ Bioflavonoid ที่มีฤทธิ์เสริมกัน ทำให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผลในการบำรุงผิว และฟอกเลือด ทำให้ร่างกายสดชื่น ผิวสวยใส ได้ตลอดวัน
วีโกเบอร์รี่ (Whe Globerry) มีคุณสมบัติโดยสรุป ดังนี้
  • ช่วยในการฟอกทำความสะอาดเลือด ลดการสะสมของไขมันที่ผนังหลอดเลือด
  • ช่วยลดระดับในน้ำตาลในเลือด ลดการอักเสบในหลอดเลือด
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณ จากภายในสู่ภายนอก ค่อย ๆ ปรับสภาพผิวให้เนียน ใส แลดูขาวขึ้น

Thursday, May 13, 2010

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับต้นเบอร์ดอก (Burdock root)


ต้นหญ้าเบอร์ดอก (Burdock) เป็นพืชตระกูลหญ้าพบมากทางยุโรป มีสรรพคุณเป็นยา มีรสหวาน ใช้เป็นยารักษาหวัด ต่อมทอลซิลอักเสบ ขับปัสสาวะ มะเร็ง และอื่น ๆ มีมากมาย 

ในอดีตทางการแพทย์ มีการนำ หญ้าเบอร์ดอก มาใช้ในการฟอกเลือด รักษาโรคผิวหนัง บรรเทาอาการปวดข้อ ปวดคอ ต่อมทอลซิลอักเสบ อีกทั้งในญี่ปุ่นรับประทาน รากต้นเบอร์ดอก เป็นอาหาร พบมากในร้านอาหารสุขภาพ ใช้เป็นผัก ผสมในอาหาร และเครื่องดื่ม เป็นแหล่งวิตามิน และแร่ธาตุ เสริมอาหาร บำรุงร่างกาย ทำให้สดชื่น   

ใน รากของต้นเบอร์ดอก มีส่วนผสมของกรดแคลเซียม ธาตุเหล็ก อินนูลิน ฟอสฟอรัส โครเมียม และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และมีฤทธิ์ในการช่วยกำจัดกรดยูริค และของเสียออกจากร่างกาย ช่วยในการขับปัสสาวะ 

โดยเฉพาะการฟอกเลือดให้สะอาด ในกรณีต่าง ๆ เช่น

  • สัมผัสกับสารพิษสิ่งแวดล้อม เช่น ควันบุหรี่ หรือมลพิษในอากาศ
  • มีพยาธิในเลือด
  • ได้รับโลหะหนัก เช่น ปรอท ตะกั่ว หรือ สารหนูในเลือด
  • ติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสเรื้อรัง เช่น ไข้หวัด โรคผิวหนัง

ดังนั้น จึงมีการสกัดสารจาก รากเบอร์ดอก (Burdock root) มาใช้ในเครื่องดื่มเพื่อเสริมสุขภาพ โดยเพราะเครื่องดื่มหรืออาหารเสริมในผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะ สารสกัดจากรากเบอร์ดอก (Burdock root extract) ประกอบด้วย อินูลิน มากถึง 27 – 45% และมีโครเมียม จึงช่วยกันลดการดูดซึมน้ำตาลแล้ว กระตุ้นการขับถ่ายออกทางอุจจาระและปัสสาวะ ทำให้น้ำตาลถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดน้อยลง โครเมี่ยม จะทำให้ฮอร์โมนอินซูลิน ทำงานได้ดียิ่งขึ้น โดยจะนำน้ำตาลไปเผาผลาญ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ และช่วยป้องกันโรคแทรกซ้อนได้เป็นอย่างดี

เครื่องดื่มผงต้นข้าวสาลีอ่อน ผสมกับ รากเบอร์ดอก สูตร วี กโล (Whe Glow)
เป็นการผสมผสานคุณประโยชน์ของต้นข้าวสาลีอ่อน และสารสกัดจากรากเบอร์ดอก ที่มีฤทธิ์เป็นอาหารด่าง ที่ช่วยเสริมสร้างเกื้อหนุนให้เกิดคุณค่ามากมายแก่ร่างกาย และสุขภาพ 
จึงเป็นสูตรเครื่องดื่มและอาหารเสริมที่มีประโยชน์ต่าง ๆ ดังนี้



  • ช่วยชำระล้างสารพิษ ปรับปรุงการทำงานของตับ และมีฤทธิ์ต่อต้านมะเร็ง
  • ช่วยฟอกเลือด สร้างเม็ดเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยโลหิตจาง และเม็ดเลือดต่ำ
  • ช่วยกำจัดพิษผ่านต่อมเหงื่อ บรรเทาอาการโรคผิวหนัง
  • ช่วยลดอาการอักเสบของข้อ กระตุ้นการขับปัสสาวะ 
  • ช่วยขจัดการสะสมขอ
  • แคลเซียม เสริมการทำงานของตับ และไต ป้องกันโรคนิ่ว
  • ช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลในเลือด ปรับสมดุลของปริมาณน้ำตาลในเลือด เหมาะกับผู้เป็นเบาหวาน
  • สามารถใช้ได้ทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ต้องการดูแลสุขภาพ
สนใจติดต่อสั่งซื้อได้ที่ คุณตู๋ tusora@gmail.com หรือ Fax: 085-7100612 หรือ 085-7100612